13 ธันวาคม 2559

ส่อง 5 ธุรกิจปี 2017 ที่กำลังมาแรงจนฉุดไม่อยู่!!


    ในตอนนี้เรียกได้ว่าเรากำลังก้าวเข้าสู่ปี 2017 ในอีกไม่ช้า เทรนด์หรือกระแสในปีนี้มีทีท่าที่เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็วในปีหน้า เนื่องมาจากการใช้ชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของคนเมืองไม่แตกต่างไปจากเดิมมากนัก ซึ่งผู้ประกอบการเองจะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัยเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ โดยคู่แข่งของแต่ละธุรกิจก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่ง SMEs เองจำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมความพร้อมรับกับเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในปีหน้าที่กำลังจะมาถึง
    ซึ่งในปีหน้านั้น ธุรกิจที่น่าสนใจ จะต้องเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ ซึ่งธุรกิจเหล่านั้นมักมีการแข่งขันกันสูง เพราะผู้ประกอบการเองเริ่มมองออกแล้วว่าเทรนด์ไหนกำลังมา เทรนด์ไหนกำลังเป็นที่น่าสนใจ และเทรนด์นั้นจะอยู่อีกนานหรือไม่ ซึ่งแนวโน้มของธุรกิจที่กำลังเป็นที่น่าสนใจนั่นก็คือ
1. ธุรกิจด้านสุขภาพ
โดยในปีนี้ธุรกิจด้านสุขภาพมาแรงแบบฉุดไม่อยู่ ผู้บริโภคหันมาดูแลสุขภาพตัวเองและคนในครอบครัวกันมากขึ้น ทำให้ธุรกิจด้านสุขภาพสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี อาทิเช่น ฟิตเนส แอโรบิค อาหารเพื่อสุขภาพ ฯลฯ ซึ่งแน่นอนการแข่งขันของธุรกิจเหล่านี้ดุเดือดกันพอสมควร ทางด้านผู้ประกอบการเองจึงจำเป็นที่จะต้องงัดจุดเด่นของธุรกิจและกลยุทธ์การตลาดเพื่อนำมาแข่งขันกับคู่แข่งในยุคนี้
2. ธุรกิจเกี่ยวกับผู้สูงอายุ 
ปัจจุบันกลุ่มผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักจะมีกำลังทรัพย์ ในการทำธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมเองมีการผลิตบ้านและเฟอร์นิเจอร์เพื่อผู้สูงอายุ และยังมีธุรกิจด้านการให้บริการผู้สูงอายุ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการแพทย์ หรือสิ่งของเครื่องใช้ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุ ซึ่งในปัจจุบันยังมีผู้ผลิตอยู่น้อยราย จึงเป็นหนทางที่ดีสำหรับชาว SME ในการลงทุนทำธุรกิจประเภทนี้
3. ธุรกิจด้านเทคโนโลยี
ประเทศไทยในตอนนี้กำลังก้าวเข้าสู่การเป็น SMEs 4.0 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงไปในยุคนี้คือ การนำเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการมากขึ้น และเป็นเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ ซึ่งแน่นอนธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องด้านเทคโนโลยีถือว่ากำลังได้เปรียบในตอนนี้ ซึ่งเป็นธุรกิจที่เป็นที่ต้องการของผู้ประกอบการในตอนนี้
4. ธุรกิจออนไลน์
ธุรกิจออนไลน์อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับใครหลายคน เพราะมันเกิดมาได้หลายปีแล้ว แต่ที่น่าจับตามองก็คือ การเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องของธุรกิจนี้ เนื่องมาจากความสะดวกสบายในการใช้บริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี ไม่มีความยุ่งยากเหมือนแต่ก่อนที่ต้องออกไปซื้อสินค้าด้วยตัวเองตามห้างสรรพสินค้าหรือตลาด เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าเดินทาง แต่เมื่ออินเตอร์เน็ตเข้าถึงผู้คนมากขึ้น การซื้อของออนไลน์ที่มีความสะดวกรวดเร็ว ไม่เหนื่อย ไม่ยุ่งยาก ไม่เสียเวลา จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สำคัญที่ไม่ว่าใครต่างก็ต้องการ
5. ธุรกิจ E-commerce
    ที่ผ่านมา E-commerce ถือเป็นหนึ่งการทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมเรื่อยมา โดยทุกวันนี้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมชอปปิ้งผ่านมือถือสมาร์ทโฟน รวมไปถึงแท็บเล็ต และยังมีช่องทางการชำระเงินหลากหลายช่องทาง โดยข้อดีของการทำธุรกิจ E-commerce คือใช้งบประมาณลงทุนน้อย และดำเนินการค้าได้อย่างไร้พรมแดนทั่วโลก โดบทั้งนี้แบรนด์สินค้านั้นต้องสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และสร้างการมีส่วนร่วมให้กับผู้บริโภคในออนไลน์ซึ่งจะช่วยให้คุณเป็นผู้ชนะได้อย่างยิ่งใหญ่นั่นเอง
      ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในตอนนี้และต่อไปในปี 2017 ที่กำลังมาถึง ซึ่งผู้ประกอบการเองต้องเตรียมการวางแผนให้ดีเพื่อรับมือกับคู่แข่งและการเปลี่ยนแปลงในปีหน้า เพื่อที่ธุรกิจจะสามารถอยู่รอดในยุคที่สมัยเปลี่ยนแปลงไป
ที่มา :  www.smartsme.tv

จองโรงแรมทั่วโลก ราคาพิเศษ คลิ๊ก!!



หากชอบ และถูกใจ กดแชร์ แบ่งปันกันไปนะคะ ^^

9 ธันวาคม 2559

เคล็ดลับวิธีเขียนอายไลเนอร์ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน


     การเขียนอายไลน์เนอร์ เป็นการแต่งหน้าที่ต้องมีทักษะไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าสาว ๆ ทุกคนจะทำออกมาได้ดี บางคนใช้ตัวช่วย ทั้งสก๊อตเทป ทั้งเปิดดูเทคนิคจากมืออาชีพก็แล้ว  แต่ผลงานออกมาก็ยังไม่น่าพอใจนัก แต่ถ้าคุณรู้วิธีที่เรากำลังจะบอกต่อไปนี้ เชื่อเถอะ งานยากจะเปลี่ยนเป็นงานง่ายได้ในพริบตา




-  สิ่งที่คุณจะต้องมี : แน่นอนว่า จะเขียนอายไลน์เนอร์ ก็ต้องมีอายไลน์เนอร์อันโปรด และที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือ กระจกพกพา
-  วิธีการ : เมื่อมีอุปกรณ์แล้ว ก็มาดูวิธีการกันต่อ เริ่มจากวางกระจกไว้บนที่ ที่ต่ำกว่าตัวคุณ เช่น วางบนโต๊ะ คุณจะต้องมองลงต่ำในขณะที่คุณเขียนขอบตา วิธีการนี้ จะทำให้คุณเขียนลายเส้นได้ชัดเจน สม่ำเสมอ ไม่ขาด ๆ หาย ๆ เทคนิคคือ ให้งอหัวแม่เท้า ในขณะที่คุณกำลังลงมือกรีดอายไลน์เนอร์ ย้ำว่า เรื่องจริง
-  วิธีการนี้ได้ผลอย่างไร : เทคนิคนี้ อธิบายได้ว่า เมื่อเราเกร็งหัวแม่เท้า ส่วนอื่น ที่เหลือของร่างกายจะผ่อนคลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มือ ดังนั้น ลายเส้นที่ออกมาจึงสม่ำเสมอ คุณอาจจะลองทดสอบด้วยตัวคุณเอง กับการเขียนตาทั้งสองข้างดูก็ได้ แล้วจะเห็นความแตกต่างด้วยตัวคุณเอง
 Photo : istockphoto.com

จองโรงแรมทั่วโลก ราคาพิเศษ คลิ๊ก!!



หากชอบ และถูกใจ กดแชร์ แบ่งปันกันไปนะคะ ^^

7 ธันวาคม 2559

แนะนำ คําอวยพรวันคริสต์มาสภาษาอังกฤษ


   วันคริสต์มาส 25 ธันวาคม   ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและเตรียมต้อนรับปีใหม่ หลายคนเลือกที่จะส่งผ่านความรู้สึกดีๆ เป็นของขวัญ รวมถึงข้อความคำอวยพร วันนี้  มีคำอวยพรวันคริสต์มาสมาฝากเพื่อนๆ กันด้วยค่ะ ผื่อจะเป็นไอเดียไปเขียนให้คนพิเศษในวันคริสต์มาสที่จะถึงนี้  


คําอวยพรวันคริสต์มาสภาษาอังกฤษ-คําอวยพรวันคริสต์มาส-เป็นภาษาอังกฤษ
HAPPY HOLIDAYS! Have a joyous Christmas and a festive New Year! Happy holidays 
ขอให้มีความปีติยินดีในวันคริสต์มาสและรื่นเริงในวันปีใหม่
Christmas Day this year for everyone to have a happy new year through 2017.
วันคริสต์มาสปีนี้ขอให้ทุกคนมีความสุขตลอดจนถึงปีใหม่ 2017
This Christmas Day. Ask anyone with a healthy body.
วันคริสต์มาสครั้งนี้ ขอให้ทุกคนมีร่างกายที่แข็งแรง
Best wishes to all hopes fulfilled with what it thought. On Christmas Day this year.
ขออวยพรให้ทุกคนสมหวังกับสิ่งที่คิดไว้ ในวันคริสต์มาสปีนี้
Best wishes to all find prosperity in this year's Christmas Day until New Year.
ขออวยพรให้ทุกคนพบกับเจริญรุ่งเรืองในวันคริสต์มาสปีนี้จนถึงปีใหม่
We found that all but good things. Health bodies. On Christmas Day this year.
ขอให้ทุกคนพบแต่สิ่งดีๆ มีสุขภาพที่แข็งแรง ในวันคริสต์มาสปีนี้
What if every year Bora Na ask hopes fulfilled on Christmas this year.
สิ่งที่ทุกคนปราถนาขอให้สมหวังในวันคริสต์มาสปีนี้
Ask everyone to find happiness and comfort is this Christmas after next.
ขอให้ทุกคนพบกับความสุขความสบายนับหลังจากวันคริสต์มาสนี้ต่อไป

ที่มา ข้อมูล bloggang.com
ที่มารูปภาพ istock 


จองโรงแรมทั่วโลก ราคาพิเศษ คลิ๊ก!!



หากชอบ และถูกใจ กดแชร์ แบ่งปันกันไปนะคะ ^^

6 ธันวาคม 2559

เคล็ดลับ บรรเทาไทรอยด์ที่คุณหมอไม่เคยบอก!!


  เมื่อพูดถึง ต่อมไทรอยด์ เพื่อนๆ คงทำหน้างุนงง และมีเครื่องหมายคำถามลอยอยู่เต็มไปหมด พูดง่ายๆ คือ ต่อมไทรอยด์นั้น เป็นต่อมไร้ท่อบริเวณลำคอ ทำหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมนที่ควบคุมระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกาย อุณหภูมิของร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ระดับไขมันในเลือด รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึก
      เมื่อต่อมไทรอยด์ของคุณมีปัญหา หรืออาการต่างๆ ที่แปลกประหลาด นอกจากการไปพบแพทย์แล้ว คุณยังสามารถบรรเทาอาการป่วยที่เกิดขึ้นกับต่อมไทรอยด์ได้ด้วยการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอ และหมั่นผ่อนคลายความเครียด 

     นอกจากนี้แล้ว คุณก็อาจจะสามารถวินิจฉัยหาสาเหตุของต้นตออาการต่างๆ ได้ด้วยการปรึกษาแพทย์ทางเลือก เพื่อให้ได้แนวทางและวิธีการรักษาที่ถูกต้อง วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีที่แตกต่างออกไปซึ่งสามารถรักษาอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับต่อมไทรอยด์ของคุณด้วยวิธีธรรมชาติ ปลอดภัย ห่างไกลอันตรายแน่นอนค่ะ

     1. บริโภควิตามิน A, D และ K2 ในปริมาณที่เหมาะสม เนื่องจากทั้งวิตามินทั้ง 3 ชนิดนี้เป็นวิตามินที่สำคัญต่อสุขภาพร่างกายและต่อมไทรอยด์ของคุณเป็นอย่างมาก จากการศึกษาวิจัยล่าสุดพบว่า หากคุณบริโภควิตามิน A, D, K2 ไม่เพียงพอก็อาจจะนำไปสู่โรคที่เกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์ก็เป็นได้
     หน้าที่ของวิตามิน K2 คือช่วยเสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูกและฟัน ปกป้องผิวพรรณจากริ้วรอย มีส่วนช่วยในการรักษาโรคมะเร็ง 

     2. สาหร่าย และผักในน้ำชนิดอื่นๆ คุณควรรับประทานสาหร่าย ไม่ว่าจะเป็นสาหร่ายโนริ สาหร่ายคอมบุ และสาหร่ายวากาเมะ หรือบริโภคพืชน้ำชนิดอื่นๆ เนื่องจากผักเหล่านี้เป็นแหล่งของไอโอดีนและอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย

     3. น้ำมันมะพร้าว น้ำมันชนิดนี้มีคุณสมบัติที่ดีกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ ตรงที่มันจะไม่ไปรบกวนต่อมไทรอยด์ในขณะที่สร้างฮอร์โมนไทรอกซีน หรือ ที4 (Thyroxine, T4) กับฮอร์โมนไตรไอโอโดไธโรนีน หรือ ที3 (Triiodothyronine, T3) ซึ่งฮอร์โมนทั้ง 2 ชนิดนี้จะมีหน้าที่ในการควบคุมการใช้พลังงานจากอาหารและออกซิเจนของเซลล์ต่างๆ (Metabolism) เพื่อการเจริญเติบโต และการทำงานของระบบในร่างกาย ช่วยซ่อมแซมเซลล์ส่วนที่บาดเจ็บและสึกหรอ และยังช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายอีกด้วย

     ดังนั้นคุณจึงควรนำน้ำมันมะพร้าวมาใช้ประกอบอาหารแทนน้ำมันทั่วไป เพราะน้ำมันมะพร้าวจะช่วยคุณกระตุ้นในการลดน้ำหนัก เสริมสร้างสมรรถภาพของระบบเผาผลาญ  และยังช่วยปกป้องระบบภูมิคุ้นกันซึ่งเป็นระบบที่สำคัญเป็นอย่างมากหากต่อมไทรอยด์ของคุณมีปัญหา เพราะฉะนั้นแล้วคุณควรหันมารับประทานน้ำมันมะพร้าว อย่างน้อยวันละ 1 ช้อนชานะคะ

     4. หลีกเลี่ยงกลูเตน (Gluten) ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า กลูเตน เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบในธัญพืชบางชนิดเช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโพด เป็นส่วนที่เหนียวและยืดหยุ่นสำหรับการทำขนมปัง หรือเบเกอรี่ สำหรับกลูเตน

     5. รับประทานซุปกระดูกเป็นประจำ น้ำซุปกระดูก หรือซุปไขกระดูกจากหมูเปรียบเหมือนยาอายุวัฒนะที่จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ยับยั้งและรักษาผนังลำไส้ซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพของต่อมไทรอยด์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ควรรับประทานน้ำซุปต้มกระดูกหมูเป็นประจำทุกวัน หรือจะรับประทานคู่กับสาหร่ายแผ่น และเกลือทะเลก็จะให้ผลลัพธ์ที่ดีไม่แพ้กันค่ะ

     6. ในกรณีที่คุณมีอาการรุนแรง ความดันต่ำอย่างผิดปกติ และมีความเครียดสะสม การรักษาด้วยการเล่นโยคะ นั่งสมาธิ และรำไทเก็ก ก็จะทำให้อวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกายของคุณผ่อนคลายมากขึ้นค่ะ 

    เห็นไหมล่ะคะว่าวิธีที่เราเอามาบอกกล่าวกันในวันนี้นั้นไม่ยากเลย อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลา และมีหลายวิธีให้เลือกสรร เพียงแค่ต้องอาศัยระเบียบวินัยและตั้งใจจริงในการรักษา ในไม่ช้าคุณก็จะได้รับผลลัพธ์อันน่ามหัศจรรย์ พร้อมกับสุขภาพและร่างกายที่จะอยู่กับคุณไปอีกแสนนาน

Source: http://www.healthyfoodhouse.com/
www.siamhealth.net
www.healthytipsworld.net
จองโรงแรมทั่วโลก ราคาพิเศษ คลิ๊ก!!


หากชอบ และถูกใจ กดแชร์ แบ่งปันกันไปนะคะ ^^

"ยาอุทัย" มีดี มากกว่าดับกระหายคลายร้อน


      ตั้งแต่โบราณน้ำยาอุทัยถูกนิยมนำมาผสมน้ำออกเป็นสีชมพูๆ แดงๆ ใช้ดื่มเพื่อดับกระหายคลายร้อน จนปัจจุบันสาวๆ ยังนำมาทาแก้ม ทาปาก ให้สีสวยสดใสได้อีกด้วย เห็นดื่มอร่อยๆ แบบนี้ น้ำยาอุทัยมีคุณค่ากับสุขภาพได้ด้วยนะ

       น้ำยาอุทัยคือสารสกัดจากธรรมขาติที่ได้จากดอกไม้และสมุนไพร กว่า 32 ชนิด ใช้ดื่มเพื่อดับกระหายคลายร้อน แถมแก้อาการร้อนใน อ่อนเพลีย และด้วยสรรพคุณจากส่วนผสมต่างๆ ในยาอุทัย มาดูกันว่ามีอะไรดีๆ กันบ้าง

– ฝาง สีแดง ๆ น้ำยาอุทัยฯ มาจากเนื้อไม้ฝาก ช่วยบำรุงหัวใจ และบำรุงเลือด
– ดอกพิกุล ช่วยบำรุงหัวใจ แก้เจ็บคอและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
– ดอกมะลิ ให้รสเย็น ช่วยบำรุงหัวใจและเป็นยาชูกำลังชั้นดี
– หญ้าฝรั่น ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงกำลังและแก้ไข้ได้
– ดอกสารภี เป็นยาหอมบำรุงหัวใจ ชูกำลัง แก้โลหิตพิการ ช่วยให้เจริญอาหาร
– ดอกบุนนาค บำรุงธาตุ ขับลม บำรุงเลือด หัวใจ แก้ไข้ แก้ลมหาวเรอ แก้ตามัว
– ดอกคำฝอย บำรุงหัวใจและระบบประสาท ป้องกันการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด
– ดอกเก๊กฮวย แก้ร้อนใน บำรุงหัวใจ
– เกสรบัวหลวง ช่วยให้สดชื่นขึ้น แก้หน้ามืด
– อบเชย บำรุงธาตุ ขับลม แก้อ่อนเพลีย
– กฤษณา ช่วยรักษาอาการท้องเสีย อาเจียน บำรุงเลือด
– จันทน์แดง ช่วยบำรุงเลือด
– โกฐหัวบัว โกฐเขมา โกฐสอ โกฐเชียง เหล่านี้ช่วยขับลม บำรุงเลือด บำรุงหัวใจ แก้ไข้และอาการไอ




จองโรงแรมทั่วโลก ราคาพิเศษ คลิ๊ก!!




หากชอบ และถูกใจ กดแชร์ แบ่งปันกันไปนะคะ ^^

5 ธันวาคม 2559

โปรแกรมออมทอง.. พันเดียวก็เริ่มลงทุนได้


    ทองคำ คือสินทรัพย์ประเภทหนึ่งในโลกของการลงทุน เราเรียกสินทรัพย์ประเภทแร่ต่างๆ เช่น เงิน ทองแดง ทองคำ ว่า สินค้าโภคภัณฑ์ แต่สิ่งที่ถือเป็นลักษณะพิเศษของทองคำคือ เป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีมูลค่าในตัวของมันเอง แตกต่างจากสินทรัพย์การลงทุนประเภทหุ้นที่ราคาของหุ้นจะปรับตัวขึ้นหรือลงนั้นขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของบริษัท ยิ่งบริษัทมีรายได้ที่โตมากขึ้นเรื่อยๆ มีแนวโน้มว่าราคาหุ้นของบริษัทนั้นจะปรับตัวขึ้นตาม แต่ทองคำจะถูกโถมซื้อหรือกระหน่ำขาย ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของนักลงทุน (หลักการขึ้นและลงของราคาทองคำ) อย่างไรก็ตามราคาทองคำนั้นถ้าจะลงทุนจริงๆต้องซื้อกันในปริมาณที่มากเพื่อให้ได้เห็นผลต่างกำไรอย่างมีนัยยะสำคัญ และทองคำแต่ละบาทนั้นมีราคาสูง ทำให้บางคนที่มีความคิดที่อยากจะลงทุนในตลาดทองคำนั้นคิดหนักเนื่องจากเม็ดเงินลงทุนนั้นไม่หนาพอ แต่ปัจจุบันมีการลงทุนในทองคำประเภทหนึ่งที่เริ่มต้นลงทุนด้วยเงินออมแค่หลักพันต่อเดือนเท่านั้น เราเรียกการลงทุนประเภทนี้ว่า โปรแกรมออมทองคำ โปรแกรมนี้เขาเอาเงินของเราไปทำอะไรกับทองคำ? เราสามารถชำระเงินออมและผลตอบแทนได้อย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบครับ




โปรแกรมนี้เอาเงินของเราไปทำอะไร?
โปรแกรมออมทองคำ จะนำเงินที่เราทยอยสะสมไปซื้อทอง จำนวนเงินแต่ละงวดที่เราตั้งไว้จะถูกเปลี่ยนประเภทสินทรัพย์จากจำนวนเงินกลายเป็นทองคำ แต่จะเป็นในรูปแบบการซื้อสะสมจนครบเป็นจำนวนบาทของทอง ยกตัวอย่างเช่น ทองคำ 1 บาท มีน้ำหนักประมาณ 15.244 กรัม สมมติว่าคุณตั้งให้บัญชีของคุณตัดยอดแต่ละเดือนจำนวน 1,000 บาท เพื่อโอนเข้าสู่โปรแกรมออมทองคำของโบรคเกอร์ที่คุณเลือกลงทุนด้วย (ATS: Auto Trade System) คุณจะได้ยอดทองสะสมในแต่ละเดือนเท่ากับ 76.10 มิลลิกรัม หมายความว่าคุณจะได้รับทองคำหนึ่งบาทเมื่อโอนเงินจำนวนเดียวกันติดต่อกันเป็นเวลา 20 เดือน (76.10 มิลลิกรัม x 20 = 1,522 มิลลิกรัม หรือ 15.22 กรัม) อย่างไรก็ตามราคาทองคำนั้นจะถูกอิง ณ วันที่คุณแจ้งขายกับโบรคเกอร์ของคุณ นอกจากคุณจะสามารถขายคืนทองคำเพื่อแลกเป็นจำนวนเงินโอนเข้าบัญชีของคุณแล้ว (เงินจะเข้าหลังจากวันที่คุณขายสองวันหรือ T+2) คุณสามารถเลือกที่จะรับเป็นทองคำแท่งได้เช่นกัน จำนวนเงินออมในแต่ละเดือนรวมถึงหมายเลขบัญชีที่ผูกติดกับโปรแกรมออมทองสามารถเปลี่ยนแปลงได้เช่นกันแต่ควรมีการแจ้งไปที่โบรคเกอร์ล่วงหน้าประมาณ 5 – 7 วัน ข้อสำคัญคือหากคุณผิดชำระไม่ส่งเงินเข้าโปรแกรมออมทองเป็นเวลาสามเดือนติดต่อกัน บริษัทมีสิทธิ์พิจารณาปิดบัญชีของคุณได้ และคุณจะต้องมารับทองคืนตามยอดสะสมที่มี หรือเงินคืนตามข้อกำหนดของบริษัท

ควรมีความรู้ความเข้าใจในตลาดทองคำ
ไม่ว่าคุณมีความคิดที่จะลงทุนผ่านโปรแกรมออมทองหรือกำลังลงทุนกับวิธีการลงทุนนี้อยู่ ควรจะหาคำตอบให้ได้ว่าทำไมคนถึงแห่ขายทองซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ราคาทองคำตกหรือทำไมคนถึงกำลังเข้าแห่ซื้อทองซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ราคาทองปรับตัวขึ้น และเมื่อทำกำไรถึงจุดหนึ่งนั้นควรขายออกมาบางส่วนก่อน เพื่อรอช่วงจังหวะเวลาที่ทองคำปรับตัวลงอยู่ในระดับราคาที่น่าสนใจ การมีเงินทุนอย่างเดียวไม่ใช่ว่าจะลงทุนกับสินทรัพย์อะไรก็ได้ ควรศึกษาให้ดีเกี่ยวกับกลไกการขึ้นลงของราคาสินทรัพย์นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง หุ้น ตราสารหนี้ และค่าเงิน มิเช่นนั้นอาจเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะซื้อของในราคาที่แพงกว่ามูลค่าที่มันควรจะเป็น (Corrective Price) และจำเป็นจะต้องขายในราคาที่ถูกกว่ากรณีตลาดทองคำนั้นถูกเทขายเป็นอย่างหนัก จะซื้อหรือลงทุนอะไร ควรถามหาเหตุผลให้ดีว่า ทำไมเราถึงเลือกนำเงินลงทุนกับสินทรัพย์นั้นๆ?

เว็บไซต์รายละเอียดโปรแกรมออมทองคำในประเทศไทยที่คุณสามารถสมัครได้:
www.huasengheng.com   (ฮั่ว เซ่ง เฮง)
www.ausiris.co.th (ออส ซิ ริส)

ที่มา : เขียนโดย ชัยสิทธิ์ บุนนาค Content Writer



หากชอบ และถูกใจ กดแชร์ แบ่งปันกันไปนะคะ ^^

3 ธันวาคม 2559

ศาสตร์แห่งฮวงจุ้ย : วิธีแก้เคล็ดเสริมดวงการงานตามวันเกิด


     ใครประสบปัญหาในที่ทำงานบ่อยๆ มีแต่เรื่อง ทั้งกับเจ้านายและเพื่อนร่วมงาน หน้าที่การงานไม่ก้าวหน้า ทำงานประสบแต่ปัญหา ไม่ราบรื่น ไม่ได้ดั่งใจ เพื่อนร่วมงานขี้อิจฉา เจ้านายไม่ส่งเสริม วันนี้มีวิธีแก้เคล็ดฮวงจุ้ยเพื่อส่งเสริมการทำงาน โดยใช้พลังจากธรรมชาติส่งเสริมตามวันเกิดของแต่ละคนมาฝาก ทำได้ง่าย ไม่ยุ่งยากเลยแม้แต่นิดเดียว

คนเกิดวันอาทิตย์
– หากมีปัญหากับเจ้านาย ควรเสริมดวงชะตาด้วยน้ำ 1แก้วใหญ่ หรือจะใส่ในแจกันแก้วใสก็ได้ วางไว้บนมุมขวามือของโต๊ะทำงาน ห้ามนำไปดื่ม และเทน้ำทิ้งทุกวัน เพราะน้ำจะเป็นตัวตกกระทบพลังด้านลบต่างๆ และจะช่วยแก้ไขปัญหาให้เย็นลงได้
– หากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน แก้เคล็ดเสริมดวงด้วยการนำต้นไม้ต้นเล็กๆ มาวางบนโต๊ะทำงาน หรือชั้นวางของข้างหลังที่นั่ง จะเป็นบอนไซ ตะโกดัดหรืออะไรก็ได้ และควรจะมีดินด้วย แต่อย่าใช้ดินวิทยาศาสตร์
– หากที่ทำงานวุ่นวายมีแต่เรื่อง ที่ทำให้เครียดไม่สบายใจ ควรใช้หินโรสควอตซ์สีชมพูตกแต่งเป็นต้นไม้ต้นเล็กๆนำมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน ก็จะสามารถแก้เคล็ดเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้นได้เช่นกัน

คนเกิดวันจันทร์
– หากมีปัญหากับเจ้านาย ควรนำสิ่งของเคริ่องใช้บางอย่างที่ทำด้วยมุก หรือเปลือกหอยชิ้นขนาดเหมาะมือมาวางบนโต๊ะทำงานจะเป็นที่ทับกระดาษหรือกล่องใส่นามบัตรก็ได้ จะช่วยขจัดปัญหายุ่งเหยิงออกไปได้บ้าง
– หากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ให้ใช้หินอความารีนสักก้อนหนึ่งมาวางบนโต๊ะทำงาน หินจะช่วยส่งคลื่นพลังให้คนรอบข้างจิตใจเย็นลงและมองเราในแง่ดี ตัดความวุ่นวายยุ่งเหยิงในจิตใจของคุณ
– หากที่ทำงานวุ่นวายและมีแต่เรื่องที่ทำให้เครียดไม่สบายใจ ให้ใช้แจกันปากกว้างหรือถ้วยแก้วใสใส่น้ำและลอยดอกไม้ที่มีสีฟ้า น้ำเงิน หรือม่วง ใช้เป็นดอกไม้ผ้าหรือพลาสติกก็ได้ จะช่วยบำบัดสถานที่ต่างๆให้คนเกิดวันจันทร์สงบลง คลายความเคร่งเครียดวุ่นวายลงได้บ้างไม่มากก็น้อย

คนเกิดวันอังคาร
– หากมีปัญหากับเจ้านาย ควรถือเคล็ดด้วยการสวมเสื้อผ้าโทนสีเขียวให้บ่อยครั้ง ให้กลัดเข็มกลัดรูปใบไม้ติดตัวทุกวัน โดยเฉพาะในยามที่ต้องเข้าพบเจ้านายจะช่วยลดการประทะเจ้านาย
– หากมีปัญหาขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน ให้นำเทียนแท่งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3นิ้ว ซึ่งเน้นให้มีสีเขียวมาวางบนโต๊ะทำงานจะขจัดปัญหายุ่งเหยิงขัดแย้งได้มาก
– หากที่ทำงานวุ่นวาย ควรใช้หินสีเขียวสดใส เช่น กรีนอเวนเจอรีน มาวางบนโต๊ะทำงาน จะใช้หินก้อนหรือเป็นแท่งๆ ก็ได้จะช่วยบำบัดสถานที่ต่างๆ ที่วุ่นวายให้สงบลงได้

คนเกิดวันพุธ
– หากมีปัญหากับเจ้านาย ควรถือเคล็ดด้วยการวางข้าวของเครื่องใช้ที่มีปลายแหลมและมีสีทองไว้บนโต๊ะทำงาน จะเป็นนาฬิกาตั้งโต๊ะหรือถ้วยรางวัลอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ เพื่อเสริมความเข้มแข็งมั่นคงให้กับสถานภาพการงานของคุณ
– หากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ควรจะใช้ถ้วยแก้วปากกว้าง หรือโถที่เป็นแก้วก็ได้ ใส่หินอเมทิสต์เอาไว้อย่างน้อย 3-4 ก้อน สื่อถึ่งเรื่องความรักและพลังปัญญา จะช่วยขจัดปัญหา ทั้งกับเพื่อนร่วมงานที่อิจฉาริษยาขัดแย้งกับคุณไปจนถึงการบำบัดสถานที่จะช่วยให้ความระส่ำระสายยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในที่ทำงานคลายความยุ่งยากลง

คนเกิดวันพฤหัส
– หากมีปัญหากับเจ้านาย ควรนำรูปปั้น เช่น รูปปั้นนางฟ้ามีปีก หรือเทวรูปบางอย่าง เช่น พระพิฆเนศ มาวางบนโต๊ะทำงาน จะช่วยเสริมดวงชะตาให้มั่นคง กล้าแข็ง เจ้านายเกรงอกเกรงใจ
– หากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ควรใช้แจกันดอกไม้สีเหลืองหรือขวดแก้วทรงสูงปักดอกไม้สีเหลืองมาวางบนโต๊ะทำงานหรือชั้นวางของข้างหลังที่นั่ง จะช่วยขจัดปัญหาเรื่องอิจฉาริษยาขัดแย้งกับคุณได้
– หากต้องการการบำบัดสถานที่ทำงานให้คลายความยุ่งยาก ยุ่งเหยิง ควรจะติดภาพวิวทิวทัศน์ ที่มีต้นไม้เขียวสด และมีถนนทอดยาวสุดสายตาเอาไว้เบื้องหลังที่นั่งของคุณเพื่อเสริมดวงชะตาและแก้ปัญหาด้านนี้

คนเกิดวันศุกร์
– หากมีปัญหากับเจ้านาย ควรพกหินลาพิสลาชูรีติดตัวหรือสวมใส่เป็นเครื่องประดับอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ให้บ่อยครั้งในช่วงนั้น จะเสริมอำนาจบารมีและความเมตตาจากเจ้านายได้
– หากมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน ควรนำสิ่งของเครื่องใช้อะไรก็ได้ที่มีเสียงเพลงร่วมด้วยมาวางบนโต๊ะทำงาน เช่น วิทยุ กล่องดนตรี หรือการ์ดเสียงเพลง เพราะคลื่นพลังของเสียงจะช่วยขจัดความยุ่งเหยิงวุ่นวายต่างๆ รวมทั้งทำให้เราจิตใจเย็นลงอยู่ในความสงบ และมองโลกในแง่ดีขึ้นด้วย วิธีนี้ยังช่วยขจัดปัญหาและความวุ่นวายยุ่งเหยิงด้านสถานที่ทำงานด้วย

คนเกิดวันเสาร์
– หากมีปัญหากับเจ้านาย ควรเสริมดวงชะตาด้วยการวางโคมไฟ 1 ดวง ไว้บนโต๊ะทำงาน และเปิดให้มีแสงสว่างอยุ่ตลอดเวลา จะแก้เคล็ดเสริมดวงชะตาที่มีปัญหากับผู้ที่เหนือกว่าได้
– หากมีปัญหากับผู้ร่วมงาน ควรวางหินคริสตัลควอตซ์ที่เป็นแท่งๆ ไว้บนโต๊ะทำงานจะเสริมให้จิตใจ และอารมณ์เย็นลง เพื่อนร่วมงานเชื่อมั่น เชื่อถือ
– หากต้องการขจัดปัญหายุ่งยากยุ่งเหยิงในที่ทำงานก็ควรใช้น้ำรินน้ำไหลหรือน้ำผุดขนาดพอดีๆ มาวางเสริมในห้องทำงานหรือข้างโต๊ะทำงานของคุณ จะช่วยให้ภายในสถานที่ทำงานเกิดการถ่ายเท เกิดการเปลี่ยนแปลงไปใน ทางที่ดี ไม่วุ่นวายเคร่งเครียดอย่างที่เป็นอยู่

สุดท้ายนี้สำหรับคนเกิดวันพุธและวันศุกร์ คุณโชคดีมาก ไม่จำเป็นต้องแก้ไขเรื่องที่ทำงานวุ่นวายด้วยเคล็ดต่างๆ เพราะจะคลี่คลายไปในที่สุด

ที่มา : เรื่องข้างต้นเผยแพร่บนเว็บไซต์ บ้านกับฮวงจุ้ย.com

18 ข้อลดหย่อนภาษี ปี 60 แบบไม่ยั้ง


นับถอยหลังอีกไม่กี่วัน เทศกาลเสียภาษีประจำปี 2560 ก็ได้มาเยือนให้เหล่ามนุษย์เงินเดือน ที่ทุกวันนี้ด้วยภาระหน้าที่ ต่างพากันเตรียมหาหนทางลดหย่อนกันจ้าละหวั่น เรียกว่ามีประกันอะไรบ้าง ต่างจัดแจงควักเอกสารออกมาให้หมด รวมถึงหากไปท่องเที่ยว ช้อปปิ้งช่วยชาติช่วง End of Season ปลายปีนี้ เชื่อว่าไม่ลืมขอใบกำกับภาษี พร้อมทำตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนดเป็นแน่ แล้วจะมีอะไรบ้างมาช่วยลดหย่อนได้อีก วันนี้ DDproperty ได้รวบรวมมาไว้ให้รีบศึกษากันก่อน ยื่นเสียภาษีที่จะเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม – มีนาคม 2560 นี้



1. ค่าลดหย่อนส่วนตัว สำหรับผู้ที่เงินได้แบบแสดงรายการ 30,000 บาท
2. ค่าลดหย่อนคู่สมรส สามีหรือภริยาชอบด้วยกฎหมาย แม้เพิ่งแต่งงานไม่ครบปี ก็สามารถลดหย่อนได้ 30,000 บาท
3. สำนวน “มีลูกหนึ่งคน จนไปสิบชาติ” คงใช้ไม่ได้กับการลดหย่อนภาษีข้อนี้ เพราะหากมีบุตรไม่เกิน 3 คน สามารถลดหย่อนได้ถึง 15,000 บาท ยิ่งถ้าเรียนอยู่เมืองไทยลดเพิ่มอีก 2,000 บาท
4. บทบาทหน้าที่ลูกกตัญญู หากอุปการะเลี้ยงดูบิดา มารดา ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท ลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
5. ค่าเบี้ยประกันสุขภาพ บิดา มารดา ที่มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท
6. ความมีน้ำใจ อุปการะเลี้ยงดูบุคคลทุพพลภาพหรือคนพิการ มีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท สามารถลดหย่อนได้คนละ 60,000 บาท
7. ข้อดีของการทำประกันชีวิต สามารถลดหย่อยได้ไม่เกิน 100,000 บาท
8. ลงทุน LTF สามารถลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ หรือสูงสุด 500,000 บาท
9. ลงทุน RMF สามารถลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ หรือสูงสุด 500,000 บาท
10. หากสำนักงานที่ทำอยู่ ถามความสมัครใจถึงกับการทำกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ให้รีบตัดสินใจทันที เพราะนอกจากจะได้เงินเก็บแล้ว ยังสามารถลดหย่อนภาษีได้ 15% ของค่าจ้าง ไม่เกิน 500,000 บาท
11. เบี้ยประกันบำนาญ ที่ถูกหักภาษี สามารถลดหย่อนได้ 15% ของเงินได้ หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท
12. กองทุนบำเหน็ดบำนาญข้าราชการ สามารถลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
13. เงินเดือนที่ถูกหักค่าประกันสังคมประจำทุกเดือน สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 9,000 บาท ต่อปี
14. หากท่องเที่ยว ค่าใช้จ่ายจากการเข้าพักโรงแรมหรือซื้อทัวร์ในประเทศไทยในวงเงินไม่เกิน 15,000 บาท ภายในวันที่ 1 – 31 ธันวาคม 2559 สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
15. ช้อปช่วยชาติ สามารถนำใบกำกับภาษีที่มีวงเงินไม่เกิน 30,000 บาท มาลดหย่อนภาษีได้ โดยมีข้อยกเว้น ไม่รวมการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ น้ำมัน ก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และ เรือ
16. ดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับกู้ยืมเงินมาซื้อหรือเช่าอาคารที่อยู่อาศัยในวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้   รวมรีวิวโครงการใหม่
17. เงินที่ใช้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน ที่มีมูลค่าไม่เกิน 3 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง สามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สิน
18. เงินบริจาค วัดวาอาราม สภากาชาดไทย สถานพยาบาล และสถานศึกษาของทางราชการ หรือองค์การของรัฐบาล สถานศึกษาเอกชน สถานสาธารณกุศล และกองทุนสวัสดิการภายในส่วนราชการ สามารถนำใบอนุโมทนาบัตรมาลดหย่อนภ สามารถนำใบอนุโมทนาบัตรมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินคงเหลือ ที่ผ่านการหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว

ขอขอบคุณข้อมูล: กรมสรรพากร 

2 ธันวาคม 2559

3 เหตุผลที่ทำไมบริษัทดัง "กูเกิ้ล" ไม่สนใจ "จ้างงาน" คนที่จบจากมหาลัยดังๆ


      มีเรื่องราวน่าสนใจมาบอกเล่าสู่กันฟัง ถึงบริษัทดังระดับโลกอย่าง "กูเกิ้ล" ซึ่งด้านหนึ่งกูเกิ้ลมีการวิเคราะห์กลุ่มบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการทำงานกับกูเกิ้ล โดยไม่ได้นำเรื่องของเกรดเฉลี่ย โรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยดัง และกลุ่มที่แสดงออกว่าฉลาดเฉลียวระหว่างการสัมภาษณ์งานมาเกี่ยวข้อง

ในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการณ์ด้านบุคลากรของกูเกิ้ล ลาซ โลบ๊อกได้เล่าถึงรายละเอียดบุคลากรที่กูเกิ้ลมองหามาร่วมงานให้ฟัง และแน่นอนไม่ได้เกี่ยวกับโพรไฟล์ส่วนตัวอะไรด้วย 

--กูเกิ้ล บอกว่า ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ มีโอกาสที่จะขาดสิ่งที่เรียกว่า "ความอ่อนน้อมถ่อมตนทางปัญญา"


ขยายความได้ว่า คนที่เพิ่งเรียนหนังสือจบในแบบที่คะแนนเกรดเฉลี่ยดีเข้าข่ายประสบความสำเร็จในอายุยังน้อยอาจจะปรับตัวยากในการเรียนรู้อะไรที่ท้าทายเพราะคิดว่าไม่สามารถที่จะล้มเหลวได้

กูเกิ้ลจึงมองหาคนที่สามารถจะยอมถอยและรับฟังให้เกียรติความคิดคนอื่นๆถ้านั่นเป็นสิ่งที่ดีกว่าเรียกว่ามีความอ่อนน้อมถ่อมตนทางปัญหานั่นเองเพราะถ้าไม่มีสิ่งนี้ก็ยากที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆหรือไม่สามารถเรียนรู้อะไรจากความล้มเหลวได้

--กูเกิ้ล บอกว่า คนที่สามารถทำอะไรเจ๋งๆได้โดยไม่ต้องมีคำว่า "มหาวิทยาลัย"มาเกี่ยวข้อง มักจะเป็นกลุ่มคนที่มี "ความโดดเด่น" อยู่เสมอ


"บ๊อก" หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการณ์ด้านบุคลากรของกูเกิ้ล ให้ความเห็นว่า หลายครั้งที่พบว่าบุคลากรในหลายที่ตามที่ทำงานต่างๆใช้ความเป็นสถาบันการศึกษามาช่วยเป็นไม้ค้ำให้ตัวเองและมันก็ไม่ได้ผล(บ๊อก:ใช้คำว่าไม้ยันรักแร้ช่วยพยุง) 

บ๊อกมองว่าระบบการศึกษาขณะนี้ไม่ได้ให้การเรียนรู้ที่จะเป็นประโยชน์ในโลกการทำงาน

--กูเกิ้ล บอกว่า ความสามารถในการเรียนรู้เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าไอคิว


ด้วยแนวคิดที่ว่าคนที่ประสบความสำเร็จทางวิชาการหรือการศึกษาไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ที่บอกได้ว่าจะมีความสามารถในการทำงานเสมอไป

"บ็อก"กล่าวว่าระบบการศึกษาในมหาวิทยาลัยสามารถสร้าง "สภาพแวดล้อมเทียม" ขึ้นมาได้ นั่นคือการสร้างเงื่อนไขเฉพาะทางขึ้นมา เป็นต้นว่าเรื่อง "ไอคิว" ซึ่งเขามองว่า "ไอคิว" มีค่าน้อยกว่าการเป็นคนที่มีความสามารถในการที่จะเรียนรู้ หรือคนประเภท On the fly (คนที่สามารถปรับตัว เปลี่ยนแปลงได้ดีและรวดเร็ว) ซึ่งกูเกิ้ลจะประเมินโดยการใช้การสัมภาษณ์ที่พิจารณาผ่านพฤติกรรมด้วย

"การหาคนของกูเกิ้ล จึงเน้นหาคนที่สามารถที่จะเรียนรู้ และมีความสามารถในการปรับตัวทันท่วงที ไม่ได้เน้นต้องการหาคนแนวที่เคยเป็นผู้นำชมรมต่างๆในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย แต่เราหาคนที่มีความสามารถจะก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำในยามที่มีสถานการณ์จำเป็น"



ที่มา : Twitter @Tistoo 

รวมบทสวดมนต์ พระคาถา และคาถาอาคม เสริมสร้างด้านต่างๆ



รวบรวมบทสวดมนต์ พระคาถา และคาถาอาคม เพื่อเสริมสร้างด้านต่างๆ
แบ่งบัน เพื่อความเป็นสิริมงคล 1 แชร์ เท่ากับ 1 ธรรมทาน



เพิ่มคำอธิบายภาพ











ที่มา : share-si.com