ช่วงหน้าร้อนแบบนี้ เป็นช่วงที่ชาวไทยใช้ไฟฟ้าและจ่ายค่าไฟฟ้ามากที่สุดในทุกปี เพราะอากาศที่ร้อนแสนจะร้อนจนสุดจะทน ทำให้ต้องเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดวันตลอดคืน แต่การดับร้อนที่ต้องแลกด้วยเงินนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก มี 10 วิธีประหยัดไฟ เพื่อช่วยให้คุณฝ่าฟันอากาศร้อนไป แบบประหยัดค่าไฟฟ้า ในช่วงนี้มาฝากกันค่ะ
1. ซักผ้าด้วยน้ำเย็น
การซักผ้าไม่จำเป็นต้องใช้น้ำอุ่นหรือร้อนในการซัก เพราะน้ำเย็นนั้นช่วยขจัดคราบได้ดีกว่าน้ำอุ่นหรือร้อน แถมทำให้เสื้อผ้าซีดจางจากการซักน้อยกว่าการซักด้วยน้ำอุ่นหรือร้อนอีกด้วย และข้อดีที่ดีที่สุดของการซักผ้าด้วยน้ำเย็นคือ ประหยัดค่าไฟเพราะเครื่องซักผ้าไม่ต้องใช้พลังงานทำให้น้ำอุ่นหรือร้อนขึ้นก่อนการซักนั่นเอง
2. ซักผ้าครั้งละมาก ๆ
แทนที่จะซักผ้าทุกสัปดาห์ ทั้ง ๆ ที่ในตะกร้ามีผ้าเพียงไม่กี่ชิ้น ลองเปลี่ยนมาซักผ้าสองสัปดาห์ครั้ง หรือรอจนกว่าเสื้อผ้าจะเต็มตะกร้าแล้วค่อยซักดีกว่า ทำให้ลดจำนวนการซักผ้า ลดการใช้น้ำและไฟฟ้าลงไป ทำให้ช่วยประหยัดทั้งค่าไฟและค่าน้ำในเวลาเดียวกัน เรียกว่าได้สองเด้งเลยทีเดียว
3. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน
ถึงแม้ว่าเราจะปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้าหลังจากใช้งานแล้ว แต่การที่ยังคงเสียบปลั๊กค้างเอาไว้ จะทำให้กระแสไฟยังคงวิ่งอยู่ตลอดเวลา และทำให้คุณเสียค่าไฟฟ้าโดยใช่เหตุ นอกจากนี้ การเสียบปลั๊กไฟค้างเอาไว้ อาจจะก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เกิดอัคคีภัยขึ้นได้ด้วย ดังนั้น การถอดปลั๊กของเครื่องใช้ไฟฟ้าหลังจากใช้งานทุกครั้งนอกจากจะช่วยประหยัดไฟแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับบ้านและทรัพย์สินของคุณอีกด้วย
4. เปิดหน้าต่าง
การเปิดหน้าต่างจะช่วยระบายอากาศและทำให้ลมสามารถพัดผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้ และช่วยทำให้อากาศในบ้านเย็นลง ดังนั้น แทนที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ลองเปลี่ยนมาใช้ลมธรรมชาติในการทำให้บ้านเย็นลง ก็จะช่วยประหยัดไฟฟ้าไปได้มากขึ้น
5. ใช้พัดลมเป็นตัวช่วยแทนเครื่องปรับอากาศ
นอกจากการเปิดหน้าต่างให้ลมธรรมชาติพัดฝ่านเข้ามาในตัวบ้านแล้ว การเปิดพัดลมตั้งพื้นหรือพัดลมเพดาน ก็จะยิ่งช่วยทำให้อากาศในบ้านถ่ายเทได้สะดวกมากขึ้น และช่วยทำให้อากาศในบ้านเย็นลงได้ด้วย ประหยัดค่าไฟกว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศเป็นไหน ๆ
6. สวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะกับหน้าร้อน
ในช่วงที่มีอากาศร้อนแบบนี้ การเลือกใส่เสื้อผ้าก็มีส่วนช่วยทำให้คุณสบายตัวมากขึ้น ลองเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าเบาบาง เช่น ผ้าลินิน ผ้าฝ้าย หรือหากจำเป็นต้องใส่เสื้อผ้าทางการอย่างชุดสูท ลองเปลี่ยนมาใส่สูทผ้าเฟรสโก้ (fresco) ซึ่งดูภายนอก เนื้อผ้าอาจจะดูหนาไปนิด แต่ให้ความเย็นสบายอย่างดีเยี่ยม
7. แช่เย็นผ้าปูที่นอน
ก่อนเข้านอนสัก 2–3 ชั่วโมง ลองนำผ้าปูที่นอนรวมถึงปลอกหมอนต่าง ๆ พับใส่ถุงซิปล็อคหรือกล่องพลาสติก แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น เมื่อถึงเวลานอนก็นำมาปูที่นอน ใส่ปลอกหมอน ก็จะทำให้คุณได้พบกับสัมผัสใหม่แห่งการนอน เพราะวิธีนี้จะทำให้ที่นอนของคุณเย็นขึ้น และช่วยทำให้คุณนอนหลับสบายมากขึ้นในช่วงหน้าร้อน
8. ทำความสะอาดแผ่นกรองเครื่องปรับอากาศ
ควรหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองของเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานได้สะดวกขึ้น หากแผ่นกรองอากาศสกปรกจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนักขึ้น สิ้นเปลื่องไฟฟ้ามากขึ้น และทำให้คุณลมแทบจับ เมื่อเห็นบิลเรียกเก็บค่าไฟฟ้า
9. เปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่เหมาะสม
จริงอยู่ว่าอากาศเมืองไทยนั้นร้อน แต่การเปิดเครื่องปรับอากาศในอุณหภูมิที่ต่ำมากมาก จะทำให้คุณเสียเงินค่าไฟโดยใช่เหตุ ควรเปิดเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 25 องศา ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่ไม่ร้อนหรือเย็นจนเกินไปก็เพียงพอแล้ว จะช่วยให้คุณปรับหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น หากว่าอุณหภูมิภายในห้องยังไม่เย็นสะใจคุณ อาจจะลองเปิดพัดลมช่วยพัดลมเย็น ๆ มาโดนตัวคุณ ทำให้เย็นขึ้นโดยที่ไม่ต้องปรับลดอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ
10. ตั้งเวลาปิดเครื่องปรับอากาศ
เครื่องปรับอากาศแทบทุกรุ่น จะมาพร้อมกับระบบตั้งเวลาเปิดปิดได้ ซึ่งแม้ว่าเครื่องปรับอากาศจะถูกปิดไปแล้ว แต่หากคุณปิดหน้าต่างปละประตูอย่างมิดชิด อากาศเย็นจะยังคงวนเวียนอยู่ภายในห้องสักพักใหญ่เลยทีเดียว โดยการตั้งเวลาปิดเครื่องปรับอากาศก่อนเวลาตื่นนอนหรือก่อนออกจากบ้านของคุณสัก 1 ชั่วโมง จะช่วยลดปริมาณการใช้ไฟฟ้า และช่วยลดค่าใช้ไฟฟ้าได้ด้วย
ไม่ยากเลยใช่ไหมละคะกับ วิธีประหยัดไฟ ในช่วงหน้าร้อน ที่เสนอในวันนี้ ไม่ต้องไปหาซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมที่ไหน เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนิดหน่อยก็ช่วยประหยัดเงินค่าไฟฟ้าไปได้มากแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณที่มา : www.moneyguru.co.th